Content Management System (CMS) คือเครื่องมือสำหรับสร้างและจัดการเนื้อหาบนเว็บไซต์ ถูกพัฒนาขึ้นด้วยภาษาคอมพิวเตอร์อย่าง PHP, HTML, MySQL และภาษาอื่นๆ โดยมีหลายแพลตฟอร์มให้เลือกใช้ ซึ่ง CMS ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างและจัดการเนื้อหาบนเว็บไซต์ได้อย่างง่ายและสะดวกมากขึ้น โดยไม่ต้องมีความรู้เฉพาะด้านด้านเทคนิค
การใช้ CMS ช่วยลดเวลาในการสร้างและอัปเดตเนื้อหาบนเว็บไซต์ โดยมีความสามารถในการสร้างหน้าเว็บไซต์แบบไดนามิก สามารถจัดการและอัปเดตเนื้อหาได้อย่างง่าย และมีการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงรูปแบบหน้าเว็บไซต์ในทันทีโดยไม่ต้องเขียนโค้ดใหม่
เช่น ตัวอย่างของ CMS ที่มีความนิยมอย่างหนึ่งคือ WordPress ซึ่งเป็น CMS ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย เช่น การเพิ่มโมดูลและปลั๊กอิน การสร้างหน้าเว็บไซต์แบบไดนามิก การแก้ไขและอัปเดตเนื้อหาบนเว็บไซต์แบบ real-time และอื่นๆ
นอกจากนี้ CMS ยังช่วยให้เว็บไซต์มีความปลอดภัยมากขึ้นด้วยการอัปเดตปรับปรุงระบบและการจัดการระบบที่เป็นมาตรฐานสูงสุดและได้รับการยอมรับจากชุมชนการพัฒนาและใช้งาน CMS
7 ระบบ CMS ยอดนิยม
- WordPress – เป็นระบบ CMS ที่มีจำนวนผู้ใช้งานสูงสุดในโลก มีความสามารถที่หลากหลายและมีจำนวนปลั๊กอินและธีมที่สามารถใช้งานได้อย่างมากมาย
- Joomla – ระบบ CMS ที่สามารถสร้างเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย มีฟังก์ชั่นการควบคุมสำหรับผู้ดูแลระบบและผู้ใช้งาน
- Drupal – ระบบ CMS ที่มีการออกแบบโครงสร้างที่ดีและสามารถปรับแต่งได้เยอะมาก มีระบบการทำงานแบบ Modules และ Themes ที่คุณสามารถนำมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Magento – ระบบ CMS สำหรับเว็บไซต์ eCommerce ที่มีความสามารถในการจัดการสินค้าและการชำระเงินอย่างมีประสิทธิภาพ
- Shopify – ระบบ CMS ที่ใช้งานง่ายและมีความสามารถในการจัดการเว็บไซต์ eCommerce โดยเฉพาะ มีฟังก์ชั่นการทำงานที่หลากหลาย
- Squarespace – ระบบ CMS สำหรับเว็บไซต์ส่วนตัวและธุรกิจขนาดเล็ก มีความสามารถในการออกแบบและแก้ไขหน้าเว็บไซต์แบบ real-time
- Wix – ระบบ CMS ที่ใช้งานง่ายและสามารถสร้างเว็บไซต์แบบไดนามิกได้ด้วยความสามารถที่ไม่ต้องมีความรู้ทางเทคนิคเยอะมาก
การเลือกใช้ CMS ที่เหมาะสมกับเว็บไซต์ของคุณนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง
เพราะการเลือกใช้ CMS ที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้คุณสูญเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงเว็บไซต์ในอนาคต
ดังนั้น ด้านล่างนี้เป็นขั้นตอนที่คุณสามารถทำเพื่อช่วยคุณเลือกใช้ CMS ที่เหมาะสมกับเว็บไซต์ของคุณ:
- กำหนดวัตถุประสงค์ของเว็บไซต์ – วัตถุประสงค์ของเว็บไซต์ของคุณจะช่วยให้คุณเลือก CMS ที่เหมาะสมกับความต้องการของเว็บไซต์ เช่น การสร้างบล็อก การขายสินค้าออนไลน์ หรือเว็บไซต์สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่
- วิเคราะห์ความต้องการ – การวิเคราะห์ความต้องการของเว็บไซต์ช่วยให้คุณเลือก CMS ที่มีฟังก์ชั่นที่ตรงกับความต้องการ เช่น ระบบการจัดการเนื้อหา ระบบ eCommerce หรือระบบการแก้ไขโค้ด
- ทดลองใช้ CMS – การทดลองใช้ CMS ก่อนตัดสินใจเลือกใช้ ช่วยให้คุณได้รับความรู้และเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการใช้งาน คุณสามารถสร้างเว็บไซต์ง่ายๆ เพื่อทดสอบ CMS ได้
- การประเมินความปลอดภัย – ความปลอดภัยของ CMS เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกใช้ CMS โดยเฉพาะเมื่อจะสร้างเว็บไซต์ที่มีการจัดการข้อมูลที่เป็นความลับหรือสำคัญ