Table of contents
WordPress (WP : เวิร์ดเพรสส์) เป็นระบบจัดการเนื้อหา (Content Management System: CMS) ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก ซึ่งใช้เพื่อทำเว็บไซต์และบล็อกอย่างง่ายและรวดเร็ว โดยเวิร์ดเพรสส์จะให้การสนับสนุนในการเขียนเนื้อหา, การแก้ไข, การจัดการและการเผยแพร่เนื้อหาในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการเพิ่มเติมฟังก์ชั่นใหม่ๆ ด้วยการใช้ปลั๊กอิน (plugins) และธีม (themes) ที่มีให้เลือกใช้งานอย่างหลากหลาย
WordPress เป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส (Open Source Software) ที่ใช้ภาษา PHP และ MySQL เพื่อรันบนเว็บเซิร์ฟเวอร์ และสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีจากเว็บไซต์ WordPress.org นอกจากนี้ยังมี WordPress.com ที่เป็นแพลตฟอร์มที่ให้บริการโฮสติ้งเว็บไซต์บนเวิร์ดเพรสส์ให้บริการฟรีและเสียค่าใช้จ่าย
WordPress เป็น CMS ที่ยืดหยุ่นและสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบเว็บไซต์ได้อย่างหลากหลาย จึงเป็นที่นิยมในการใช้งานระบบ CMS ในการทำเว็บไซต์สำหรับธุรกิจ, บล็อกส่วนตัว, ร้านค้าออนไลน์, และเว็บไซต์ในการเผยแพร่ข่าวสารและความรู้ต่างๆ ในสาขาอื่นๆ
WordPress Plugins คืออะไร ?
Plugins ใน WordPress คือ การเพิ่มความสามารถเสริมให้กับเวิร์ดเพรสส์เพื่อให้สามารถทำงานได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน เช่น การเพิ่มฟังก์ชันสำหรับการแสดงผลสไลด์รูปภาพ, การเพิ่มฟังก์ชันเกี่ยวกับความปลอดภัยของเว็บไซต์, การเพิ่มฟังก์ชันสำหรับการติดตั้งเครื่องมือ SEO และอื่น ๆ
Plugins สามารถดาวน์โหลดได้จากที่ WordPress.org หรือจากที่ของบริษัทนักพัฒนาปลั๊กอิน และสามารถติดตั้งผ่านหน้าต่างการติดตั้ง Plugin ในเว็บไซต์ได้โดยง่าย การใช้งาน Plugin นั้นมีข้อดีหลายอย่าง เช่น:
- การปรับแต่งเว็บไซต์ – คุณสามารถเพิ่มฟังก์ชันเสริมเพื่อปรับแต่งเว็บไซต์ของคุณได้ตามความต้องการ
- การปรับปรุงประสิทธิภาพ – มี Plugin ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ได้ เช่น Plugin สำหรับการแคชหน้าเว็บไซต์เพื่อเพิ่มความเร็วในการโหลด
- การพัฒนางาน – การใช้ Plugin ช่วยให้นักพัฒนางานสามารถทำงานได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ความยืดหยุ่น – การใช้ Plugin ทำให้สามารถปรับแต่งเว็บไซต์ได้ตามความต้องการโดยไม่ต้องเขียนโค้ดเอง
การเลือกใช้ Plugin ต้องมีการพิจารณาปัจจัยต่างๆตามความต้องการ
Themes WordPress คืออะไร ?
Theme ใน WordPress คือการออกแบบและจัดรูปแบบหน้าเว็บไซต์ให้มีลักษณะเด่นหรือโดดเด่น โดย Themes จะกำหนดโครงสร้างและสไตล์ของเว็บไซต์ เช่น การแสดงผลรูปภาพ, การจัดแต่งแถบเมนู, การเพิ่มลักษณะเด่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน, การปรับแต่งสีหรือขนาดตัวอักษร และอื่น ๆ
Themes ในเวิร์ดเพรสส์สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีจากเว็บไซต์ WordPress.org และหลายบริษัทสามารถพัฒนา Themes ได้ โดย Themes มีหลายแบบและสไตล์ที่สามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการ เช่น Theme สำหรับบล็อก, ทำเว็บไซต์ธุรกิจ, ร้านค้าออนไลน์, และอื่น ๆ
ข้อดีของ WordPress
ด้วย WordPress เรามีโอกาสสร้างภาพลักษณ์ออนไลน์ที่ไม่เพียงแค่ง่าย แต่ยังมีความสร้างสรรค์ไม่รู้ขีดจำกัด โดยเราสามารถออกแบบที่ปรับแต่งได้อย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดความเป็นเอกลักษณ์แบบไม่เคยมีมาก่อนของบริษัทหรือองค์กรของเรา หลากหลายธีมและปลั๊กอินยอดเยี่ยมก็เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราเกิดความแตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ในวิธีของเราเองได้อย่างง่ายดาย
ไม่ใช่เพียงเท่านี้เท่านั้น ด้วยระบบ SEO ที่ดีเยี่ยมของเวิร์ดเพรสส์จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสปรากฏบนหน้าแรกของผลการค้นหาในเครื่องมือค้นหา และระบบการจัดการเนื้อหาที่ง่ายต่อการใช้งานก็ช่วยให้การสร้างและอัพเดตเนื้อหาไม่เป็นภาระ
สามารถแสดงความคิดเห็นและสร้างความสัมพันธ์กับผู้เยี่ยมชมด้วยระบบคอมเมนต์ที่ใช้งานง่าย และเนื้อหาบล็อกหรือบทความที่น่าสนใจจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจและความประสงค์ในการกลับมาเยี่ยมชมไปเรื่อย ๆ
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักธุรกิจที่กำลังเติบโต องค์กรที่ต้องการเปิดร้านค้าออนไลน์ หรือผู้สร้างเนื้อหาส่วนตัว เรามี WordPress เพื่อทำให้ความคิดและโอกาสของคุณเติบโตไม่มีข้อจำกัด มาเข้าร่วมกับเราในการสำรวจโลกแห่งความสร้างสรรค์และนวัตกรรมที่ไม่มีที่สิ้นสุดของเวิร์ดเพรสส์กันเถอะ
- ใช้งานง่าย: มีอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและเหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ไม่มีความรู้ด้านเทคนิค การสร้างเนื้อหา แก้ไขบทความ และอัปเดตเว็บไซต์เป็นเรื่องที่ไม่ซับซ้อน
- โมดูลและปลั๊กอินต่าง ๆ: มีการสนับสนุนปลั๊กอินและโมดูลที่หลากหลาย ทำให้คุณสามารถเพิ่มฟังก์ชันเพิ่มเติมลงในเว็บไซต์ของคุณได้ตามความต้องการ เช่น เพิ่มเครื่องมือ SEO สร้างแบบฟอร์ม หรือจัดการร้านค้าออนไลน์
- ปรับแต่งหลากหลาย: คุณสามารถปรับแต่งรูปแบบและลักษณะของเว็บไซต์ได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกธีม (Theme) หรือปรับแต่งแต่ละส่วนของหน้าเว็บ
- เนื้อหาและการบริหารจัดการ: การสร้างและจัดการเนื้อหาบน WP มีความสะดวกและเป็นระเบียบ เพียงแค่คลิกเพื่อเพิ่มบทความ รูปภาพ วิดีโอ หรือแท็ก การจัดการหมวดหมู่และแท็กยังช่วยให้เนื้อหาเป็นระเบียบและง่ายต่อการค้นหา
- ระบบ SEO ที่ดี: มีปลั๊กอินและเครื่องมือที่ช่วยในการปรับแต่ง SEO ที่ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีความน่าสนใจสำหรับเครื่องมือการค้นหา และช่วยในการเพิ่มโอกาสในการปรากฏตำแหน่งสูงในผลการค้นหา
- คอมมูนิตี้และอินเตอร์แอคชั่น: มีระบบคอมเมนต์ที่ง่ายต่อการจัดการ และการสร้างความสัมพันธ์กับผู้ใช้ นอกจากนี้ ยังมีปลั๊กอินเสริมที่ช่วยให้คุณสร้างการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือการสนทนาในเว็บไซต์
- ความรวดเร็วและประสิทธิภาพ: หากถูกตั้งค่าและจัดการอย่างถูกต้อง ซึ่งสามารถให้ประสิทธิภาพการโหลดเว็บไซต์ที่ดีได้
- การอัปเดตและการรักษา: มีการอัปเดตเวอร์ชันและความปลอดภัยอยู่เสมอ เพื่อให้คุณมั่นใจว่าเว็บไซต์ของคุณปลอดภัยและเป็นประสิทธิภาพ
- คอมมูนิตี้และอินเตอร์แอคชั่น: มีระบบคอมเมนต์ที่ง่ายต่อการจัดการ และการสร้างความสัมพันธ์กับผู้ใช้ นอกจากนี้ ยังมีปลั๊กอินเสริมที่ช่วยให้คุณสร้างการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือการสนทนาในเว็บไซต์
- คอมมูนิตี้และอินเตอร์แอคชั่น: มีระบบคอมเมนต์ที่ง่ายต่อการจัดการและควบคุม ผู้ดูแลเว็บไซต์สามารถจัดการคอมเมนต์ และการโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้ง่าย โดยการตอบคำถามหรือแสดงความคิดเห็นเพื่อสร้างสัมพันธ์และการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้เข้าชม
- การสร้างเว็บไซต์ที่เป็น responsiveness: มีธีมและเทมเพลตที่ออกแบบมาเพื่อให้เว็บไซต์สามารถปรับตัวกับขนาดหน้าจอและอุปกรณ์ที่แตกต่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Responsive Design)
- ความรู้และชุมชน: เนื่องจาก มีผู้ใช้งานมากมายทั่วโลก มีชุมชนออนไลน์ที่ใหญ่และทรงพลัง คุณสามารถหาคำแนะนำ ความรู้ และการแก้ไขปัญหาจากชุมชนได้ง่าย
- การติดตั้งและการใช้งานฟรี: เป็นโปรแกรมที่เปิดตัวให้ใช้งานฟรี และสามารถติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์ของคุณได้โดยง่าย นั่นหมายความว่าคุณสามารถเริ่มสร้างเว็บไซต์ได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการใช้งานพื้นฐาน
ทั้งหมดนี้เป็นข้อดีที่ทำให้ WordPress เป็นเครื่องมือที่น่าสนใจและเหมาะสำหรับการสร้างเว็บไซต์ที่หลากหลายตามความต้องการของคุณ อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้เว็บไซต์สามารถขึ้นอยู่กับลักษณะและวัตถุประสงค์ของโครงการเฉพาะของคุณเอง
ความต้องการของระบบ
ความต้องการของระบบสำหรับการใช้งาน WordPress จะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของเว็บไซต์ที่คุณต้องการสร้าง แต่ละเว็บไซต์อาจมีความต้องการที่แตกต่างกันไป นี่คือความต้องการพื้นฐานสำหรับการติดตั้งและใช้งาน WordPress:
- โดเมนเนมและโฮสติ้ง: คุณจำเป็นต้องมีโดเมนเนม (ชื่อเว็บไซต์) และพื้นที่โฮสต์บนเซิร์ฟเวอร์เพื่อติดตั้งและรัน WordPress ในกรณีที่คุณไม่มีโฮสติ้งอยู่แล้ว คุณต้องเลือกผู้ให้บริการโฮสติ้งที่รองรับ WordPress และจัดการโดเมนเนมของคุณ
- ฐานข้อมูล: WordPress ใช้ระบบฐานข้อมูล MySQL เพื่อจัดเก็บข้อมูลเว็บไซต์ เมื่อติดตั้งคุณจำเป็นต้องมีการสร้างฐานข้อมูล MySQL และมีข้อมูลการเข้าถึงฐานข้อมูล (ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน)
- PHP และเว็บเซิร์ฟเวอร์: WordPress เป็นแอปพลิเคชันที่ใช้ภาษาโปรแกรม PHP และต้องทำงานบนเว็บเซิร์ฟเวอร์ เช่น Apache หรือ Nginx ดังนั้นเว็บเซิร์ฟเวอร์ของคุณต้องรองรับ PHP และเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับ WordPress
- รุ่น PHP และ MySQL: คุณควรตรวจสอบว่ารุ่นของ PHP และ MySQL ที่ใช้ในเซิร์ฟเวอร์ของคุณเข้ากับรุ่นที่ WordPress รองรับ แนะนำให้ใช้รุ่น PHP และ MySQL ที่มีความเข้ากันได้กับ WordPress ล่าสุด
- สเปกฮาร์ดแวร์: ความต้องการของเซิร์ฟเวอร์ (เช่น CPU และ RAM) ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้เข้าชมและความซับซ้อนของเว็บไซต์ของคุณ ในกรณีเว็บไซต์ที่มีผู้เข้าชมมาก คุณอาจจะต้องเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่มีสเปกฮาร์ดแวร์ที่เหมาะสม
- การสนับสนุน HTTPS: HTTPS เป็นโปรโตคอลความปลอดภัยที่สำคัญสำหรับการส่งข้อมูลผ่านเว็บไซต์ คุณควรใช้เว็บเซิร์ฟเวอร์ที่รองรับการใช้งาน HTTPS เพื่อความปลอดภัยและรักษาความลับของข้อมูล
- เว็บเบราว์เซอร์: เว็บไซต์ที่พัฒนาด้วย WordPress จะถูกเข้าถึงผ่านเว็บเบราว์เซอร์ คุณควรให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณแสดงผลได้ถูกต้องบนเว็บเบราว์เซอร์หลายรุ่น รวมถึงเว็บเบราว์เซอร์ที่พัฒนาขึ้นในมือถือ
- ระบบปฏิบัติการ: WordPress สามารถทำงานบนหลายระบบปฏิบัติการ เช่น Windows, macOS, และ Linux คุณสามารถเลือกระบบปฏิบัติการที่ใช้งานได้อย่างสะดวก
- เวลาที่ใช้: ความต้องการของระบบสำหรับการใช้งาน WordPress นั้นค่อนข้างรวดเร็ว โดยสามารถติดตั้งและกำหนดค่าพื้นฐานได้ในเวลาไม่นาน
เมื่อคุณเตรียมพร้อมความต้องการข้างต้นแล้ว คุณสามารถติดตั้งและใช้งาน WordPress ได้โดยเข้าไปที่เว็บไซต์หลักของ WordPress และทำตามขั้นตอนที่กำหนด