Linux คืออะไร?

Linux

Written by Aoo Pattana-anurak

มีนาคม 24, 2023

Linux คืออะไร?

Linux เป็นระบบปฏิบัติการ (Operating System) ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในวงการ IT มากกว่า 20 ปี นับตั้งแต่มีการพัฒนาครั้งแรกของ Linux โดย Linus Torvalds เมื่อปี 1991 โดยเป็นระบบปฏิบัติการที่มีโค้ดเปิด (Open Source) ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงและปรับแต่งระบบได้ตามต้องการ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการใช้งาน นอกจากนี้ยังเป็นระบบปฏิบัติการที่มีความปลอดภัยสูงและสามารถใช้งานได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องรีบูต (reboot) เท่าที่ระบบปฏิบัติการอื่นๆ ต้องทำ

ประวัติความเป็นมา

ประวัติความเป็นมาของ Linux เริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1991 โดย Linus Torvalds ที่เป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยของฟินแลนด์ ในช่วงนั้นเขาต้องการระบบปฏิบัติการที่สามารถทำงานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ของเขาที่ใช้ CPU ของ Intel เพื่อให้ได้เสถียรภาพและประสิทธิภาพที่ดีกว่าระบบปฏิบัติการ MS-DOS ที่ใช้ในยุคนั้น

เขาจึงเริ่มทำการพัฒนาระบบปฏิบัติการใหม่ตั้งแต่เดือน 4 ปี 1991 และตั้งชื่อระบบปฏิบัติการนี้ว่า “Linux” โดยเริ่มต้นจากการพัฒนาเคอร์เนลของระบบปฏิบัติการก่อน และเริ่มส่วนพัฒนาเคอร์เนลในช่วงนั้นก็เป็นแค่เคอร์เนลเปล่า ๆ ที่ยังไม่สามารถทำงานเองได้

เมื่อเคอร์เนลพัฒนาไปในขั้นที่พอดี ที่สามารถทำงานพื้นฐานได้ ก็ได้ถูกเผยแพร่และตัว Linux ก็เริ่มมีการพัฒนาที่รวดเร็วขึ้น สิ่งที่เป็นที่น่าสนใจคือ Linux เปิดให้เป็นระบบปฏิบัติการแบบเปิดเผย (Open Source) ซึ่งหมายความว่าใครก็สามารถดาวน์โหลดและใช้งานซอฟต์แวร์ Linux ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และสามารถดูรหัสต้นฉบับและแก้ไขได้ตามต้องการ

Linux ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และได้รับความสนับสนุนจากชุมชนของนักพัฒนาทั่วโลก ทำให้มีการพัฒนาและปรับปรุงต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังได้มีการพัฒนา Linux distribution ที่มีความหลากหลายให้เลือกใช้ โดยแต่ละ distribution มีคุณสมบัติและวัตถุประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกัน หากคุณเป็นนักพัฒนาหรือผู้ที่ต้องการความเสถียรในการใช้งานควรพิจารณาเลือกใช้ Linux distribution ที่เหมาะสมกับความต้องการและความถนัดของคุณ

Linux มีหลักการออกแบบและการทำงานที่แตกต่างจากระบบปฏิบัติการอื่นๆ เช่น Windows หรือ MacOS โดยมีโครงสร้างที่เป็นโมเดล Unix ที่สามารถทำงานได้โดยใช้ command-line interface (CLI) หรือ graphical user interface (GUI) ได้ นอกจากนี้มันยังเป็นระบบปฏิบัติการที่ยืดหยุ่นและสามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้ง package, kernel, หรือ service ต่างๆ

การใช้งาน LinuxOS

ในการทำงานบนเซิร์ฟเวอร์เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจาก LinuxOS มีความนิยมในการนำมาใช้งานในสิ่งต่างๆ เช่น web server, database server, mail server, หรือ firewall ซึ่ง LinuxOS จะเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการจัดการและควบคุมการทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ โดยเฉพาะในการทำงานในระบบ LinuxOS นั้นมีความสามารถและความยืดหยุ่นในการปรับแต่งและตั้งค่าต่างๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างครบถ้วน

LinuxOS หรือ Linux Operating System เป็นระบบปฏิบัติการแบบ Unix-like ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในวงการ IT โดยเฉพาะในการทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ เนื่องจากมีความเสถียรและประสิทธิภาพสูง และมีการพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่รวดเร็ว

การทำงานบนระบบ LinuxOS นั้นมีจุดเด่นมากมาย เช่น ความปลอดภัยสูง ความสามารถในการทำงานแบบ Multi-tasking ได้โดยเร็ว และสามารถรองรับการทำงานของหลายๆ แอปพลิเคชันพร้อมกันได้ นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการสร้างสคริปต์หรือคำสั่งที่ใช้ในการทำงานได้อย่างหลากหลายตามความต้องการของผู้ใช้งาน

ในการใช้งาน LinuxOS บนเซิร์ฟเวอร์ มักจะใช้กับการสร้างและจัดการเว็บไซต์ ซึ่งในการทำงานนี้ส่วนใหญ่จะใช้งาน Apache ซึ่งเป็น Web Server ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด นอกจากนี้ยังมี MySQL ที่ใช้เป็นฐานข้อมูล และ Postfix ที่ใช้สำหรับการจัดการ Email รวมถึง Linux Firewall ที่ใช้เพื่อควบคุมการเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ นอกจากนี้ยังมีการใช้งาน LinuxOS ในการจัดการเครือข่ายและความปลอดภัย เช่นการใช้งาน OpenVPN เพื่อเชื่อมต่อระยะไกล หรือการใช้งาน SELinux เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ LinuxOS ยังเป็นเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชัน และการใช้งาน Docker ซึ่งเป็นเทคโนโลยี Containerization ที่ช่วยให้การทำงานแอปพลิเคชันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นมากขึ้น ดังนั้น LinuxOS เป็นเครื่องมือที่สำคัญและยังคงได้รับความนิยมอย่างสูงในการใช้งานบนเซิร์ฟเวอร์อย่างต่อเนื่อง

Components

Linux ประกอบด้วยส่วนประกอบหลายอย่างที่ทำให้เป็นระบบปฏิบัติการที่สามารถทำงานได้อย่างครบถ้วน ส่วนประกอบที่สำคัญของ Linux ประกอบด้วยดังนี้:

  1. Kernel (เคอร์เนล): เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของระบบปฏิบัติการ Linux ซึ่งเป็นตัวกลางในการควบคุมและจัดการทรัพยากรต่างๆ บนเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น การเชื่อมต่อกับฮาร์ดแวร์ เริ่มต้นระบบ การจัดการหน่วยความจำ ฯลฯ
  2. Shell (เชลล์): เป็นอินเตอร์เฟซที่ใช้ในการป้อนคำสั่งหรือคำสั่งที่เป็นสคริปต์ (script) เพื่อทำงานกับระบบปฏิบัติการ ใน Linux มีหลากหลาย Shell ที่ใช้งานได้ เช่น Bash, Zsh, Ksh ฯลฯ
  3. File System (ระบบไฟล์): เป็นวิธีการจัดเก็บและจัดระเบียบข้อมูลในระบบปฏิบัติการ Linux โดยใน Linux มีระบบไฟล์ต่างๆ ที่ใช้งานได้ เช่น ext4, XFS, Btrfs ฯลฯ
  4. Utilities (โปรแกรมเสริม): เป็นโปรแกรมที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Linux เพื่อให้ความสะดวกและความหลากหลายในการใช้งาน เช่น โปรแกรมสำหรับจัดการเครือข่าย โปรแกรมสำหรับสร้างเอกสาร โปรแกรมสำหรับจัดการฐานข้อมูล ฯลฯ
  5. Graphical User Interface (GUI): ในบาง distribution ของ Linux มี GUI เป็นอินเตอร์เฟซที่ทำให้ผู้ใช้สามารถทำงานและจัดการระบบได้ด้วยการคลิกเม้าส์ มีเวอร์ชันต่างๆ ของ GUI ที่ใช้กันแบบนำหน้าเช่น GNOME, KDE, Xfce, LXDE ฯลฯ
  6. Application Software (ซอฟต์แวร์แอปพลิเคชัน): เป็นโปรแกรมที่เพิ่มเติมในระบบปฏิบัติการ Linux ที่ช่วยให้ผู้ใช้ทำงานและเพลิดเพลินในการใช้งาน มีทั้งโปรแกรมสำหรับงานกราฟิก สำหรับสร้างเอกสาร สำหรับติดต่อออนไลน์ และอื่นๆ อีกมากมาย

Linux Distribution

Linux distribution หมายถึงระบบปฏิบัติการที่ใช้ระบบแกนของ Linux (Linux kernel) เป็นพื้นฐาน และได้รวบรวมซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ที่ใช้งานร่วมกันเพื่อให้ได้ระบบปฏิบัติการที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้และสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม

บาง Linux distribution จะเน้นความเสถียรและความน่าเชื่อถือในการใช้งาน (Stability and Reliability) เหมาะสำหรับการใช้งานในสถานการณ์ที่ต้องการความเสถียรภาพ ในขณะที่อีกบางตัวอาจเน้นความสะดวกและความใช้งานง่าย (User-friendliness) เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการใช้ระบบที่เข้าใจและใช้งานได้ง่าย

นอกจากนี้ Linux distribution ยังมีการให้บริการพัฒนาซอฟต์แวร์ การอัปเดต และการสนับสนุนที่แตกต่างกัน บางตัวมีการให้การสนับสนุนนาน 5 ปีหรือมากกว่า ในขณะที่บางตัวอาจมีการอัปเดตและการสนับสนุนน้อยกว่านั้น

ตัวอย่างของ Linux distribution ที่น่าสนใจและได้รับความนิยมมาก ๆ ได้แก่:

  1. Ubuntu: ตัวแทน Linux distribution ที่เน้นความเสถียรและความใช้งานง่าย มีรุ่น LTS (Long-Term Support) ที่ให้การอัปเดตและการสนับสนุนนาน 5 ปี
  2. CentOS: ระบบปฏิบัติการที่ใช้โค้ดเบสจาก Red Hat Enterprise Linux (RHEL) และมีการอัปเดตและการสนับสนุนนาน 10 ปี
  3. Fedora: เป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาขึ้นโดย Red Hat และมีการอัปเดตและการสนับสนุนเป็นเวลา 6 เดือน
  4. Debian: ระบบปฏิบัติการที่นิยมในการใช้เป็นเซิร์ฟเวอร์และพัฒนาตามแนวคิดของการเปิดเผยโค้ด (Open Source)
  5. Arch Linux: เป็นระบบปฏิบัติการที่ให้ความเสถียรในการอัปเดตและความคล่องตัวในการปรับแต่ง

นอกจากนี้ยังมี Linux distribution อื่น ๆ ที่เหมาะสำหรับงานที่เฉพาะเจาะจง เช่น Kali Linux ที่เน้นความปลอดภัยและเครื่องมือทางด้านความปลอดภัย และ Raspbian ที่เหมาะสำหรับใช้งานบน Raspberry Pi และอื่น ๆ อีกมากมาย

Microsoft 365

Microsoft 365

สั่งซื้อ คลิก >>  Microsoft 365 รายปี ที่ Thai Config ได้แล้ว

gmail google workspace อีเมล์บริษัท

Google Workspace

สั่งซื้อ คลิก >>  Google Workspace รายปี ที่ Thai Config ได้แล้ว

โฆษณา



IP Address คืออะไร ?

IP Address คืออะไร ?

IP Address (Internet Protocol Address) คือ รหัสที่ใช้ในการระบุตำแหน่งของอุปกรณ์ในเครือข่ายอินเทอร์เน็ต...

OSI Model คืออะไร?

OSI Model คืออะไร?

OSI Model คืออะไร? เมื่อพูดถึงเทคโนโลยีและการเชื่อมต่อเครือข่าย ความเข้าใจเกี่ยวกับ OSI Model...

Load Balancer คืออะไร ?

Load Balancer คืออะไร ?

Load Balancer คืออุปกรณ์หรือซอฟต์แวร์ที่ช่วยกระจายการร้องขอข้อมูลจากเครือข่ายไปยังหลาย ๆ แหล่งข้อมูลหรือเซิร์ฟเวอร์...

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ …